ประโยชน์ของบลูเบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่รวมไปถึงบลูเบอร์รี่นั้นขึ้นชื่อว่าอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคหวัดและยังมีข้อมูลจากส่วนอื่นๆ ที่ระบุว่าบลูเบอร์รี่ยังมีประโยชน์ในการช่วยลดการระคายเคืองในระบบทางเดินปัสสาวะ ป้องกันโรคเบาหวาน โรคไทฟอยด์ ระบบหายใจผิดปกติ ช่วยบรรเทาอาการผิดตอในลำไส้ใหญ่ ท้องผูก โรคกระเพาะอาหาร โรคเริม แผลในปาก นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ช่วยทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานดีขึ้น ซึ่งอาจมีส่วนช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายสูงวัย และยังช่วยป้องกันเส้นเลือดขอด ลดอาการบวม เสริมสร้างความแข็งให้ผนังหลอดเลือด ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและเส้นเอ็น
เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ซึ่งร่างกายต้องการเพื่อช่วยทำให้เซลล์ในร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากโรคต่างๆ
ได้ดีขึ้น รวมทั้งการรักษาบาดแผล การป้องกันโรคมะเร็ง
ลดการเป็นโรคเลือดออกตามไรฟัน ตลอดจนถึงโรคเก๊าท์หรืออาการปวดตามข้อ
1.บลูเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทภาพการทำงานของเซลล์ให้ดียิ่งขึ้น
ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ โรคทางประสาทและสมอง
ช่วยป้องกันการเสื่อมของร่างกายและชะลอความแก่ชรา ฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจนที่ผิว
ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยดูลบเลือนลง ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย และอาจช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วย
(ข้อมูลของ USDA หรือ สถาบันวิจัยโภชนาการทางด้านสรีระศาสตร์
ได้ระบุว่าบลูเบอร์รี่จัดเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด
ซึ่งผลจากการทดสอบค่าที่เรียกว่า “ORAC” (Oxygen Radical Absorbance
Capacity) ได้แสดงให้เห็นว่าบลูเบอร์รี่สดจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผลไม้สดและผักชนิดอื่น)[1]
2.ช่วยในเรื่องของระบบประสาทและสมอง
ช่วยทำให้เซลล์สมองสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น
ทำให้ความสามารถในการจำของเราดีขึ้น ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
รักษาเซลล์สมองที่ถูกทำลาย โดยมีรายงานว่า ผศ.โรเบิร์ต คริโคเรียน แห่งศูนย์สุขภาพ
มหาวิทยาลัยซินซินเนติในสหรัฐ ได้ทำการทดลองให้ผู้สูงอายุที่เริ่มมีอาการหลงๆ ลืมๆ
ได้ดื่มน้ำบลูเบอร์รี่คั้นสดวันละ 2 แก้ว เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน ผลการทดลองพบว่า ผู้สูงอายุเหล่านั้นมีความทรงจำที่ดีขึ้น
จึงเชื่อว่าผลบลูเบอร์รี่ดิบๆ จึงน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคความจำเสื่อมด้วย[1],[2]
3.บลูเบอร์รี่เป็นอาหารเสริมที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ
เพราะช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง
4.บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin)
ประกอบอยู่ โดยเป็นสารจำพวกฟลาโวนอยด์ที่มีสีแดงอมม่วง
สารนี้มีประโยชน์ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง
ช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดในระดับที่เล็กมากขึ้น
และช่วยในการทำงานของกระบวนการเมตาบอลิซึ่มของเซลล์เรตินา
5.สารแอนโทไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) เป็นสารที่มีคุณสมบัติเทียบได้กับสารไบโอฟลาโวนอยด์
สามารถช่วยทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
และสารชนิดนี้ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการทำงานของไต
และช่วยรักษาผู้ที่มีเส้นเลือดฝอยเปราะในอวัยวะที่ทำหน้าที่กรองของเสีย
และสารแอนโธไซยาโนไซด์ชนิดหนึ่งคือสาร ไมร์ทิลลิน (Myrtliiln) เป็นสารสีน้ำเงินที่มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคที่เรียได้ด้วย
6.สารแอนโทไซยานินที่พบได้มากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่รวมถึงบลูเบอร์รี่
มีส่วนช่วยในการป้องกันอาการอ่อนล้าจากการใช้สายตาหนัก
ช่วยทำให้สายตาทำงานได้ดีขึ้นในที่มืด และยังช่วยป้องกันต้อกระจก ต้อหิน ต้อลม
ช่วยลดความดันในลูกตา และลดความเจ็บปวดจากการบวมในลูกตา โดยข้อมูลจาก Archives
of Ophthalmology ชี้ว่าการรับประทานบลูเบอร์รี่วันละ 3 ถ้วย จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคตาที่เกิดในวัยผู้ใหญ่ได้ด้วย
1.ช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
2.ช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหารและทำให้การขับถ่ายของร่างกายทำงานได้เป็นระบบมากขึ้น
จึงช่วยป้องกันโรคท้องผูกและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้
7.บลูเบอร์รี่มีสาร
Pterostilbene ที่ช่วยรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และตับ
และยังมีกรด Ellagic ที่ทำงานควบคู่กับแอนโทไซยานิน
และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ป้องกันมะเร็ง โดยผลการวิจัยของ Journal of
Agricultural and Food Chemistry ชี้ว่าบลูเบอร์รี่มีสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่
และช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งด้วย[2]
8.ในเรื่องของระบบปัสสาวะ
แบคทีเรียอีโคไลที่ผนังท่อทางเดินปัสสาวะเป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่มีผลทำให้เกิดอาการอักเสบและรู้สึกแสบในขณะปัสสาวะ
บลูเบอร์มีสารที่ทำให้แบคทีเรียชนิดนี้หยุดการเจริญเติบโต
และช่วยล้างแบคทีเรียออกจากทางเดินปัสสาวะ
สำหรับผู้ที่กำลังหาวิธีควบคุมน้ำหนักหรือลดความอ้วนแบบง่ายๆ
แต่ได้ผล แนะนำให้รองรับประทานบลูเบอร์รี่
เพราะผลไม้ชนิดนี้เป็นแหล่งของพลังงานชั้นยอดที่มีแคลอรี่ต่ำ
ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
เพราะมีเส้นใยอาหารที่ช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนานกว่าเดิม[1]
9.บลูเบอร์รี่มีสารเพคตินที่สามารถช่วยในการลดระดับของคอเลสเตอรอล
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด[1]
10.จากการศึกษาของศูนย์หัวใจและหลอดเลือด
มหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้แสดงให้เห็นว่าบลูเบอร์รี่อาจช่วยลดไขมันหน้าท้อง
และความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้
โดยพบว่าหนูทดลองที่รับประทานผงบลูเบอร์รี่ผสมในอาหารของหนู เป็นระยะเวลา 90
วัน มีไขมันหน้าท้องน้อยลง และระดับไตรกลีเซอไรด์ลดลง[2]
11.บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่เป็นตัวต่อต้านสารพิษ
และช่วยล้างพิษในร่างกาย[1]
12.วิตามินซีในผลบลูเบอร์รี่จะช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้สดใส
เปล่งปลั่ง และแก้มแดงมีเลือดฝาด[1]
สรรพคุณของบลูเบอร์รี่ มีอยู่ใน
น้ำสมุนไพรคาวตอง ฟีนิกซ์ด้วยสรรพคุณที่ให้ผลชัดเจน
จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
รับประกันเห็นผล
100% จากขวดแรกที่ใช้
เลข อย. 13-2-00656-2-0172
ขณะนี้ น้ำสมุนไพรคาวตอง
ฟินิกซ์ (พลูคาวแท้ 100%) ขายดีที่สุด
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 5-30 ซีซี
วันละ 2 ครั้ง
ก่อนอาหารเช้า-เย็น
ดูข้อมูลที่ http://kowtongphoenin.blogspot.com
ปริมาณและราคา 1 ขวด บรรจุ 750 มล.
ราคา 1500 บาท ส่งพัสดุ EMSฟรีทั่วประเทศ
สั่งซื้อละเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย ทองสา
โทร. 084-6822645 , 085-0250423
ID Line : weerachaicoffee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น